เซียนมวยรุมจวก หลังบัวขาวประกาศแขวนนวม
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
เซียนมวย ออกมาให้ทรรศนะ หลังจากที่บัวขาวประกาศเลิกชก ชี้ เป็นเรื่องน่าเสียดาย เพราะบัวขาวยังขึ้นชกได้อีกหลายปี ทำเงินได้อีกหลายร้อยล้าน เชื่อ ล้มโต๊ะเจรจาเพราะปัญหาเพียงนิดเดียวเท่านั้น
เมื่อวันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา มีรายงานว่า มีทรรศนะของผู้คร่ำหวอดในวงการมวย เกี่ยวกับกรณีที่นายสมบัติ บัญชาเมฆ หรือบัวขาว ป.ประมุข นักมวยเจ้าของแชมป์ไทยไฟต์ ได้เปิดโต๊ะเจรจากับค่ายมวย ป. ประมุข แต่ไม่สามารถตกลงกันเรื่องการแบ่งผลประโยชน์ ส่งผลให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์มากมาย ไม่ว่าจะเป็น กำนักเก๊ นายประมุข โรจนตัณฑ์ เจ้าของค่าย ป.ประมุข ที่บอกว่า บัวขาวจะต้องเลิกชกมวย หากเปลี่ยนชื่อใหม่แล้วไปชกมวย ก็ถือว่าทำผิดสัญญาที่ทำไว้กับทางค่าย
ด้านนายสมชาติ เจริญวัชรวิทย์ นายกสมาคมมวยอาชีพแห่งประเทศไทย กล่าวแสดงความไม่พอใจต่อบัวขาว ที่ประกาศแขวนนวมว่า ก่อนหน้านี้มีการตกลงเซ็นสัญญาแบ่งผลประโยชน์กันอย่างลงตัวแล้ว แต่พอถึงเวลากลับเรียกร้องเพิ่มเติมจนเรื่องจบไม่สวย ตนเป็นผู้ใหญ่คอยไกล่เกลี่ยทั้งสองฝ่ายก็ไม่รู้ว่าจะอย่างไร แต่ก็ถือว่าทำดีที่สุดแล้ว
ขณะที่นายสกล วรรณพงษ์ รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ในฐานะเป็นตัวกลางที่นัดเจรจาเรื่องนี้ กล่าวว่า ตนเองรู้สึกเสียใจที่ต้องจบแบบต้องแพ้กันทั้งสองฝ่าย ด้วยสาเหตุเงื่อนไขเพียงนิดเดียว เพราะมีการต่อรองว่า ใครจะเป็นผู้รับงานโชว์ตัวต่าง ๆ ทนายบัวขาวยืนยันว่า บัวขาวจะขอรับเงินค่าออกงานต่าง ๆ เพียงคนเดียว แต่ทางค่าย ป. ประมุขไม่ยอม ในที่สุดก็ตกลงกันไม่ได้ ถือเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย
นอกจากนี้ นายสกล ยังกล่าวอีกว่า เรื่องนี้ตนได้ถามกำนันเก๊ว่า เรื่องนี้มันคุ้มกันหรือไม่ แม้ว่าทนายฝ่ายบัวขาวจะเป็นฝ่ายผิดเงื่อนไขเรื่องส่วนแบ่งรายได้ไปบ้าง แต่ตนเองรู้สึกเสียดายบัวขาว เพราะบัวขาวยังหนุ่ม สามารถชกมวยได้เงินอีกเป็นร้อยล้าน หรือจะตั้งให้เป็นทูตกีฬาก็ยังได้ แต่เมื่อเลิกชก ทุกอย่างก็จบ สัญญาก็จะมีผลควบคุมในระยะเวลา 5 ปี ซึ่งทางสำนักงานมวยของ กกท. เอง ก็มีคำสั่งถอนใบอนุญาตชกมวยของบัวขาวแล้ว เป็นเวลา 6 เดือน หากยังฝ่าฝืนขึ้ชก หรือหนีไปชกในต่างประเทศ ก็จะถือว่าทำผิดกฏหมาย มีโทษอาญา จำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับ 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ความจริงแล้ว เมื่อวานบัวขาวใจร้อนมากเกินไป ถ้ารอให้มีการสืบพยาน ผลอาจจะออกมาดีกว่านี้ แต่ประกาศเลิกชกมวยไปเลย ย่อมไม่เป็นประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่าย ค่าย ป.ประมุขเองก็ถือสัญญาอยู่ ก็ต้องมาคอยจับผิดว่าบัวขาวจะแอบไปขึ้นชกที่ไหนอีก เป็นเวรกรรมไม่จบไม่สิ้น
ส่วนคนในวงการมวย มองว่า หากบัวขาวจะโอนสัญชาติแล้วไปชกในต่างประเทศเพียงอย่างเดียว ก็ถือเป็นเรื่องน่าเสียดาย เพราะรายได้หลักและชื่อเสียงของบัวขาว มาจากการไปชกที่ต่างประเทศ ส่วนที่ไทยมีเฉพาะศึกไทยไฟต์เท่านั้น จริง ๆ แล้วบัวขาวยังสามารถทำชื่อเสียงให้กับประเทศชาติได้อีก อย่างน้อยสองสามปีก็เป็นเงินร้อยล้านบาท เพราะบัวขาวเป็นที่รู้จักในยุโรปและญี่ปุ่น หากเขาจะโอนสัญชาติไปเป็นญี่ปุ่น หรือไปเป็นฝรั่ง ก็คงอยู่เหนือการควบคุมของ พ.ร.บ. มวย และกฏหมายของไทยเช่นกัน
สรุปแล้ว บัวขาวไม่ได้ประโยชน์จากค่าย ป.ประมุข แต่เขาเป็นอิสระ เหมือนนกที่ออกจากกรง อย่างน้อยก็ไปหาทนายแก้ต่างดี ๆ เท่านั้นเอง ขณะที่ทางค่าย ก็ต้องหาทนายฟ้องร้องหากมีการฝ่าฝืน เสียดายโอกาสทั้งสองฝ่าย ผิดใจกันด้วยข้อตกลงเพียงเล็กน้อย
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น