Pages

วันอังคารที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ทูเพค ชาเคอร์

“เมื่อผมตาย ผมต้องการอยู่ต่อไปในรูปของตำนาน”

ทูเพค อามูรา ชาเคอร์ เกิดเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 1971 ที่นิวยอร์คซิตี้ อเมริกา
แม่ของเขาชื่ออาเฟนิ ชาเคอร์ เป็นนักหัวปฏิวัติหัวรุนแรงในกลุ่ม “แบล็ค แพนเตอร์ พาร์ตี้” ทำตัวเป็นแก๊งกวนเมือง วางระเบิดและร้านค้าต่างๆ ก่อคดีถึง 156 คดี ต้องส่งเข้าคุกที่เรือนจำสตรีที่นิวยอร์ค
ระหว่างอยู่ในคุกเธอตั้งครรภ์ เด็กในท้องก็ ทูเพค นี้แหละ แต่เธอไม่บอกว่าใครเป็นพ่อ จนกระทั้งเขาโตเป็นหนุ่มนี้แหละเธอถึงบอกว่าพ่อเป็นหนุ่มคาโนว่าชื่อ บิลลี่ การ์แลนด์
นอกจากนี้ทูเพคยังมีน้องสาวต่างบิดาอีก เพราะแม่เขาไปแต่งงานกับมูตูลู ชาเคอร์ หนุ่มดำชาวมุสลิน แต่มาปี ค.ศ. 1986 มูตูลู ก็ถูกจับข้อหาปล้นธนาคารและฆ่าคน จนส่งผลให้ติดคุก 60 ปี
ด้วยที่แม่ของชาเคอร์มีความรู้เกี่ยวกับภาษามุสลินและภาษาโบราณของชนเผ่าอเมริกาใต้ เธอเลยตั้งชื่อลูกชายของเธอว่า “ชาเคอร์” เป็นภาษาอารบิก” แปลว่า “ขอบคุณพระเจ้า” ส่วน “ทูแพค อามารู” เป็นชื่อนักรบเผ่าอินคา แปลว่า งูใหญ่ฉายแสง
ตอนทูเพค เกิดนั้นพอดี๊ พอดี เป็นยุคเหยียดสีผิวพอดี ในอเมริกาเกิดความขัดแย้ง คนผิวดำถูกตำรวจจับมากมายเพราะการประท้วง และก่อความวุ่นวาย
รวมถึง แพรตต์ พ่อทูนหัวของทูเพค ก็โดนจำคุกตลอดชีวิต ฐานฆาตกรรมหญิงผิวขาวในลอสแอนเจลีส
แต่ถึงกระนั้น ต้นทศวรรษที่ 70 ก็เป็นช่วงเวลาที่คนผิวดำมีความรุ่งโรจน์ด้านดนตรี หลายวงที่มีนักร้องผิวดำประสบความสำเร็จอย่างมากในอเมริกา
ทั้งนี้ทั้งนั้นการเมืองและศิลปะเหล่านี้เป็นสิ่งหล่อหลอมชีวิตจิตใจของทูเพคจนแยกไม่ออกในเวลาต่อมา.......
ชีวิตของทูเพคไม่ราบเรียบสวยงามมากนัก แม่เป็นผู้เลี้ยงดูเขาพร้อมน้องสาวต่างบิดา โดยฐานะยากจนข้นแค้น แทบไม่มีหลังคาจะคุ้มหัวก็ว่าได้ ทูเพคกับน้องสาวต้องอาศัยอยู่ในฮาเร็มโรงกระหรี่และย่านบร็องซ์ บางครั้งก็อาศัยในหอพักคนไร้บ้านและบางครั้งก็อาศัยนอนกับพระที่โบสถ์(คล้ายๆ เด็กวัดบ้านเรา) ขอข้าวขอน้ำกิน ตอนนั้นทูเพคมีอายุแค่ 10 ขวบเท่านั้นเอง
ทูเพคยามนั้นบอกความฝันให้ สาธุคุณ เฮอร์เบิร์ต โดทรี ว่า “โตขึ้นผมจะเป็นนักปฏิวัติครับ”........
แต่กระนั้นท่านสาธุคุณก็รักและเมตตากับพ่อหนุทูเทคไม่ใช้น้อย ท่านให้กำลังใจเมื่อท่านเห็นแววพรสวรรค์ทางการแสดง ท่านส่งเสริมความสามารถเขา จนกระทั้งทูเพคอายุ 12 ขวบ ก็ได้ร่วมแสดงกับคณะละคร “ฮาเร็ม เธียเตอร์ กรุ๊ป เดอะ 127 สตรีท เอนแวมเบิล” ทำให้ฐานะของครอบครัวเขาดีขึ้น มีบ้านเป็นหลักเป็นแหล่งสักที
ในเวลานั้นเอง มีชายคนหนึ่ง ก้าวมาในชีวิตของทูเพค เขาชื่อ “เลกส์” อาชีพแสนหรูเป็น นักค้ายาเสพย์ติดรายย่อยๆ ในนิวยอร์ก
ทูเพคบูชาเลกส์มากๆ เขาอยากให้เลกส์มาเป็นพ่อ แล้วเขาก็สมปรารถนาวะด้วยสิ เลกส์ได้ย้ายมาอยู่อาศัยกับครอบครัวทูเพค แถมไม่ได้อยู่เปล่า สอนให้แม่ของทูเพคสูบแคร็ก กับโคเคนด้วย(เจริญ)
ค.ศ. 1985 ครอบครัวของทูเพคย้ายมาอยู่บัลติมอร์ ส่วนเลกส์ก็โดนจับข้อหาปลอมบัตรเครดิต พอออกจากคุกไม่กี่วัน ก็หัวใจวายตายเพราะเสพโคเคนเกินขนาด(คงลงแดงจัด)
เมื่อมาตั้งรกรากในบัลติมอร์ ทูเพคก็เข้าเรียนไฮสคูล เพื่อได้มีโอกาสได้ศึกษาสิ่งที่ตนรัก ซึ่งก็คือดนตรีและการแสดง
ทูเพครักเพลงแร็พ ที่กำลังจะครองโลก ในยุค 80 นั่น
ค.ศ. 1986 เขาสมัครเรียนบัลเล่ต์ และการละครที่โรงเรียนการแสดง “บิลติมอร์ ฟอร์ ดิ อาร์ต”
ฝีไม้ลายมือเพลงแร็พของเขานั้นไม่มีใครเทียบเท่าได้เลย ด้วยใจรักผนวกกับพื้นฐานที่เขาเรียนมาจากประสบการณ์จากบร็องซ์และฮาเร็ม ทำให้ความสามารถของเขาพัฒนาอย่างรวดเร็ว
น่าเสียดายที่ทูเพคไม่มีโอกาสได้เรียนจบโรงเรียน เพราะ ค.ศ. 1988 แม่ของเขาติดยางอมแงม และเป็นโรคปร่ะสาทหวาดกลัวความรุนแรงย่านคนผิวดำที่เธออาศัยอยู่ มันน่ากลัวจะตายนี้ ปล้นฆ่ายิงไม่เว้นแต่ละวัน แบบนี้อยู่ไม่ไหวหรอก เธอเลยหอบลูกย้ายหนีสังคมด้านมืดอีกครั้ง คราวนี้ไปอยู่ มาริน ซิตี้ ทางตอนเหนือแคลิฟอร์เนียโน่น
แต่ดูเหมือนว่าแม่ของทูเพคจะคิดผิด เพราะย่านมาริน ซิตี้ ตอนนี้กลายเป็นแหล่งอาชญากรรมมีแต่พวกนิโกรตัวดำมาอาศัย ผิดกับฝั่งตรงข้ามคือ มาริน เคาน์ตี้ ถิ่นคนร่ำคนรวยที่สุดในอเมริกา เขาพากันซื้อบ้านอยู่กันหรูหราเชียว
การย้ายบ้านกลางคันเช่นนี้ ส่งผลกระทบต่อจิตใจของทูเพคเป็นอย่างมาก เขาต้องลาออกโรงเรียนการแสดงกลางคัน....โลกแทบแตก ทำให้ทูเพคเริ่มเบื่อชีวิต เพราะทันทีที่ทูแพ็คมาถึง มาริน ซิตี้ ก็เริ่มประชดด้วยการเดินขายยาเสพย์ติดอยู่ริมถนน
แต่กระนั้นแววรุ่งของราชาเพลงแร็พก็ยังฉายแววชนิดไม่มีสิ่งใดมาบดบังได้เลย เขากลายเป็นตำนานบทหนึ่งแห่งมาริน ซิตี้ ด้วยการร่วมวงกับ “สตริคลี่ โดฟ” และ “เดอะ วัน เนชั่น เอ็มซีดส์”

ทูเพคยังพัฒนาเพลงแร็พเป็นสไตล์เอกลักษณ์ของตัวเองอีก แถมยังแต่งเนื้อเรื่องเองเสียด้วยสิ

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

 
Design by Free WordPress Themes | Bloggerized by Lasantha - Premium Blogger Themes