โอ๊ค โพสต์เฟซบุ๊กเปรียบเทียบการโกหกสีขาวกับการพูดความจริงสีดำ ไม่ต่างจากพฤติกรรมของ ปชป. เรื่องกล้อง CCTV ปลอมทั่วกรุงเทพฯ
วันนี้ (27 สิงหาคม) ใน
เฟซบุ๊กส่วนตัว Oak Panthongtae Shinawatra ของ นายพานทองแท้ ชินวัตร ได้มีการโพสต์ข้อความกล่าวถึงกรณีที่ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ออกมายอมรับว่าเป้าการส่งออกในปีนี้เติบโตไม่ถึง 15% ตามที่เคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ จนเป็นเหตุให้พรรคประชาธิปัตย์ออกมาโจมตีดังกล่าวนั้น ไม่ต่างจากพฤติกรรมของผู้ว่าฯ กรุงเทพฯ ของพรรคประชาธิปัตย์ ที่โกหกเรื่อง CCTV ปลอมทั่วกรุงเทพฯ โดยมีข้อความดังนี้
White lie vs. Black truth
"โกหกสีขาว ตรงข้ามกับ พูดความจริงสีดำ" อย่างไหนเหมาะกับสังคมไทย ผมว่าในปัจจุบันอย่างหลังยังได้เปรียบอยู่เยอะครับ เพราะโกหกสีขาวพอขึ้นชื่อว่าโกหกปุ๊บ จะอธิบายอย่างไรคนมักจะไม่ฟังกันแล้ว
พรรคประชาธิปัตย์ รู้ความจริงข้อนี้ดี เลยออกมาโจมตีรองนายก กิตติรัตน์ฯ กันใหญ่ตั้งแต่หัวแถวยันปลายแถว โดยลืมไปว่า คนที่ใช้วิธีโกหกสีขาวมาก่อนหน้านี้ คือ พรรคประชาธิปัตย์เอง โกหกต่อเนื่องมาไม่ต่ำกว่า 3 - 4 ปี แถมโกหกแล้วยังถูกจับได้คาหนังคาเขา ไม่ได้ออกมายืดอกยอมรับแบบลูกผู้ชายด้วยตัวเองเหมือนรองฯ กิตติรัตน์ ด้วยซ้ำไป
พวกเรายังจำเรื่อง "กล้อง CCTV ปลอม ของ กทม." หรือที่เรียกว่า "กล้องดัมมี่" ได้มั๊ยครับ ที่มีคนแอบไปส่องดูแล้วพบว่ากล้องตามที่ ผู้ว่าฯ กทม.ของพรรคประชาธิปัตย์โฆษณาหาเสียง ว่าติดตั้งครบแล้ว 10,000 ตัว พร้อมสโลแกน "ทั้งชีวิตเราดูแล พร้อม...เพื่อคนกรุงเทพ" นั่นแหละครับ เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุด จำเลยทางสังคมในเรื่องนี้ทั้ง 2 คน โยนความผิดกันไปมา ล้วนเป็นผู้ว่าฯ กทม.ของพรรค ปชป.ทั้งคู่ครับ ติดตั้งกล้องดัมมี่ตั้งแต่ปี 50 สมัยผู้ว่าอภิรักษ์ฯ ยันสมัยผู้ว่าสุขุมพันธ์ฯ โกหกคนกรุงเทพฯ ทั้งเมือง ปิดข่าวเงียบกริบจนมีคนไปถ่ายรูปมาลงในเน็ตจนสุดท้ายต้องยอมรับสารภาพว่าโกหก และติดกล้องดัมมี่หลอกเอาไว้เป็นพัน ๆ ตัว โอ้โห.....!!!
แล้วพรรคปชป.ก็ออกมาให้เหตุผลกันยกใหญ่ ว่าโกหกด้วยความปราถนาดีบ้าง เอาไว้หลอกโจรจะได้ไม่กล้ากระทำผิดบ้าง แต่ในกรณีที่คนดี ๆ ที่เขากล้าไปเดินคนเดียว เพราะนึกว่ามีกล้องอยู่จริง ๆ ปรากฏว่าโดนปล้น, จี้, ข่มขืน, ฆ่า แล้วจับตัวผู้ร้ายไม่ได้เพราะเป็นกล้องปลอม เขาต้องเดือดร้อนจาก "ผู้ว่าฯ โกหก" ไม่มีพลพรรค ปชป.ออกมาด่าผู้ว่าพรรคตัวเองสักคนครับ
ส่วนโกหกสีขาวก็อย่างในรูปครับ ขอทานจะโกหกและทำตัวให้น่าสงสารอย่างไร ก็คงจะได้เงินมากกว่า ดันไปบอกเขาว่าจะเอาเงินไปกินเบียร์ เออ!! ดูมันทำคงจะมีใครให้เงินมันหรอก
ผมสรุปอย่างนี้แล้วกันนะครับว่า รอง กิตติรัตน์ฯ คราวหน้าไม่ต้องไปหวังดีขนาดนั้นครับ ตัวเลขมันจะตามหรือไม่ตามเป้า ก็ว่ากันไปตามข้อเท็จจริงเลยดีกว่า เพราะการเมืองไม่เหมือนภาคธุรกิจ เนื่องจากมีฝ่ายค้านครับ ค้านได้ทุกเรื่อง ค้าน & ค้าน & ค้าน ท่องไว้เลยครับ แล้วก็อีกอย่างทางการเมืองเค้าไม่ใช้วิธียอมรับ ไม่ว่าจะ black หรือ white ยอมรับไปเจอไฮยีน่ารุมตายเลยครับ ทางการเมืองเขาใช้วิธีไม่พูดครับ
"บางเรื่องโดนจับได้คาหนังคาเขา หลักฐานชัด พยานเพียบ ถามอย่างไรก็ไม่ตอบ จี้ถามไปหนัก ๆ เข้าก็หลบหน้านักข่าวให้เรื่องเงียบ แล้วค่อยออกมาพล่ามกันต่อแบบนี้ก็มีครับ"