This is featured post 1 title
Replace these every slider sentences with your featured post descriptions.Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these with your own descriptions.
This is featured post 2 title
Replace these every slider sentences with your featured post descriptions.Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these with your own descriptions.
This is featured post 3 title
Replace these every slider sentences with your featured post descriptions.Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these with your own descriptions.
วันจันทร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2555
โอ๊ค แขวะ ปชป. โกหกสีขาวกับการพูดความจริงสีดำ
19:41
Suticha limited edittion
No comments
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก Oak Panthongtae Shinawatra
โอ๊ค โพสต์เฟซบุ๊กเปรียบเทียบการโกหกสีขาวกับการพูดความจริงสีดำ ไม่ต่างจากพฤติกรรมของ ปชป. เรื่องกล้อง CCTV ปลอมทั่วกรุงเทพฯ
วันนี้ (27 สิงหาคม) ในเฟซบุ๊กส่วนตัว Oak Panthongtae Shinawatra ของ นายพานทองแท้ ชินวัตร ได้มีการโพสต์ข้อความกล่าวถึงกรณีที่ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ออกมายอมรับว่าเป้าการส่งออกในปีนี้เติบโตไม่ถึง 15% ตามที่เคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ จนเป็นเหตุให้พรรคประชาธิปัตย์ออกมาโจมตีดังกล่าวนั้น ไม่ต่างจากพฤติกรรมของผู้ว่าฯ กรุงเทพฯ ของพรรคประชาธิปัตย์ ที่โกหกเรื่อง CCTV ปลอมทั่วกรุงเทพฯ โดยมีข้อความดังนี้
White lie vs. Black truth
"โกหกสีขาว ตรงข้ามกับ พูดความจริงสีดำ" อย่างไหนเหมาะกับสังคมไทย ผมว่าในปัจจุบันอย่างหลังยังได้เปรียบอยู่เยอะครับ เพราะโกหกสีขาวพอขึ้นชื่อว่าโกหกปุ๊บ จะอธิบายอย่างไรคนมักจะไม่ฟังกันแล้ว
พรรคประชาธิปัตย์ รู้ความจริงข้อนี้ดี เลยออกมาโจมตีรองนายก กิตติรัตน์ฯ กันใหญ่ตั้งแต่หัวแถวยันปลายแถว โดยลืมไปว่า คนที่ใช้วิธีโกหกสีขาวมาก่อนหน้านี้ คือ พรรคประชาธิปัตย์เอง โกหกต่อเนื่องมาไม่ต่ำกว่า 3 - 4 ปี แถมโกหกแล้วยังถูกจับได้คาหนังคาเขา ไม่ได้ออกมายืดอกยอมรับแบบลูกผู้ชายด้วยตัวเองเหมือนรองฯ กิตติรัตน์ ด้วยซ้ำไป
พวกเรายังจำเรื่อง "กล้อง CCTV ปลอม ของ กทม." หรือที่เรียกว่า "กล้องดัมมี่" ได้มั๊ยครับ ที่มีคนแอบไปส่องดูแล้วพบว่ากล้องตามที่ ผู้ว่าฯ กทม.ของพรรคประชาธิปัตย์โฆษณาหาเสียง ว่าติดตั้งครบแล้ว 10,000 ตัว พร้อมสโลแกน "ทั้งชีวิตเราดูแล พร้อม...เพื่อคนกรุงเทพ" นั่นแหละครับ เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุด จำเลยทางสังคมในเรื่องนี้ทั้ง 2 คน โยนความผิดกันไปมา ล้วนเป็นผู้ว่าฯ กทม.ของพรรค ปชป.ทั้งคู่ครับ ติดตั้งกล้องดัมมี่ตั้งแต่ปี 50 สมัยผู้ว่าอภิรักษ์ฯ ยันสมัยผู้ว่าสุขุมพันธ์ฯ โกหกคนกรุงเทพฯ ทั้งเมือง ปิดข่าวเงียบกริบจนมีคนไปถ่ายรูปมาลงในเน็ตจนสุดท้ายต้องยอมรับสารภาพว่าโกหก และติดกล้องดัมมี่หลอกเอาไว้เป็นพัน ๆ ตัว โอ้โห.....!!!
แล้วพรรคปชป.ก็ออกมาให้เหตุผลกันยกใหญ่ ว่าโกหกด้วยความปราถนาดีบ้าง เอาไว้หลอกโจรจะได้ไม่กล้ากระทำผิดบ้าง แต่ในกรณีที่คนดี ๆ ที่เขากล้าไปเดินคนเดียว เพราะนึกว่ามีกล้องอยู่จริง ๆ ปรากฏว่าโดนปล้น, จี้, ข่มขืน, ฆ่า แล้วจับตัวผู้ร้ายไม่ได้เพราะเป็นกล้องปลอม เขาต้องเดือดร้อนจาก "ผู้ว่าฯ โกหก" ไม่มีพลพรรค ปชป.ออกมาด่าผู้ว่าพรรคตัวเองสักคนครับ
ส่วนโกหกสีขาวก็อย่างในรูปครับ ขอทานจะโกหกและทำตัวให้น่าสงสารอย่างไร ก็คงจะได้เงินมากกว่า ดันไปบอกเขาว่าจะเอาเงินไปกินเบียร์ เออ!! ดูมันทำคงจะมีใครให้เงินมันหรอก
ผมสรุปอย่างนี้แล้วกันนะครับว่า รอง กิตติรัตน์ฯ คราวหน้าไม่ต้องไปหวังดีขนาดนั้นครับ ตัวเลขมันจะตามหรือไม่ตามเป้า ก็ว่ากันไปตามข้อเท็จจริงเลยดีกว่า เพราะการเมืองไม่เหมือนภาคธุรกิจ เนื่องจากมีฝ่ายค้านครับ ค้านได้ทุกเรื่อง ค้าน & ค้าน & ค้าน ท่องไว้เลยครับ แล้วก็อีกอย่างทางการเมืองเค้าไม่ใช้วิธียอมรับ ไม่ว่าจะ black หรือ white ยอมรับไปเจอไฮยีน่ารุมตายเลยครับ ทางการเมืองเขาใช้วิธีไม่พูดครับ
"บางเรื่องโดนจับได้คาหนังคาเขา หลักฐานชัด พยานเพียบ ถามอย่างไรก็ไม่ตอบ จี้ถามไปหนัก ๆ เข้าก็หลบหน้านักข่าวให้เรื่องเงียบ แล้วค่อยออกมาพล่ามกันต่อแบบนี้ก็มีครับ"
กระแต ผวา! โดนหนุ่มตามกว่า 5 เดือน บอกอยากแต่งงานด้วย
19:40
Suticha limited edittion
No comments
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Instagram iamkratae
เรียกได้ว่างานเข้าเต็ม ๆ เลยทีเดียว สำหรับสาวกระแต ศุภักษร ไชยมงคล ที่ถูกผู้ชายนิรนามบุกเข้าหาที่บ้านพักเชียงใหม่ หนำซ้ำยังคอยตามพฤติกรรมเธอกว่า 5 เดือน งานนี้สาวกระแตก็เห็นท่าไม่ดี จึงเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
โดยวันนี้ (27 สิงหาคม) สาวกระแต กล่าวว่า ตอนนี้ตนมีผู้ชายตามมาหลายเดือนแล้ว ประมาณ 5-6 เดือนก่อน โดยผู้ชายคนนี้เค้าตามกระแตไปถึงบ้านที่เชียงใหม่ และชอบโพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ของตนว่าตนไปทำอะไรที่ไหน หรือถามว่ามีแฟนหรือยัง จีบได้หรือเปล่า และโพสต์ข้อความเชิงลักษณะนี้อีกมากมาย
และล่าสุดเร็ว ๆ นี้ ผู้ชายคนดังกล่าวก็บุกเข้าไปยังบ้านของตนที่เชียงใหม่ แต่ตนไม่อยู่ ด้านพ่อของตนก็ออกไปคุยกับเข้า ซึ่งเขาบอกว่าชอบตนมาก และแต่งงานกับตน ซึ่งก็ไม่ทราบว่าเขาเบอร์โทรศัพท์ทั้งบ้านที่กรุงเทพฯ และบ้านที่เชียงใหม่มาจากไหน แถมตอนกลางคืนยังโทรเข้ามารัว ๆ เป็นสิบ ๆ ครั้ง ทั้งนี้ ตนเห็นท่าว่าไม่ดี และเริ่มกลัว เวลาไปไหนมาไหนก็ไม่กล้าไปคนเดียว ตนจึงแจ้งความเอาไว้แล้ว
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
วันพฤหัสบดีที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2555
NASA ปล่อย ภาพถ่ายชุดใหม่ “ดาวอังคาร”
16:41
Suticha limited edittion
No comments
NASA ปล่อย ภาพถ่ายชุดใหม่ “ดาวอังคาร” ความงามอันซ่อนเร้น !!
ดาวอังคาร - NASA ได้ปล่อยภาพพาโนราม่า จากกล้องพาโนรามิค ( Pancam ) ชุดใหม่ของดาวเคราะห์แดง ซึ่งทำการสำรวจโดยยาน Mars Exploration Rover Opportunity แสดงภูมิประเทศ ที่ได้เหยียบย่ำไปตลอด หน้าหนาว 4 เดือน บนดาวอังคาร เป็น circle scene ทั้งหมด 817 ภาพ
สัมผัสความสวยงามที่มนุษย์ยุคเรา ยังไม่อาจะใกล้ชิดได้ไปก่อน …ก่อนสุดท้ายเราอาจได้ไปวาเคชั่น ลั่นล้า กันที่ดาวอังคารในอนาคต ตามที่องค์กรทางอวกาศต่างทุ่มทุนและผลักดันกันอย่างเมามันส์ … Let’s go to Mars !!
เครดิต = http://tech.mthai.co...blet/18550.html , miraclesaven Jokergameth
NASA ปล่อย ภาพถ่ายชุดใหม่ “ดาวอังคาร”
16:39
Suticha limited edittion
No comments
NASA ปล่อย ภาพถ่ายชุดใหม่ “ดาวอังคาร” ความงามอันซ่อนเร้น !!
ดาวอังคาร - NASA ได้ปล่อยภาพพาโนราม่า จากกล้องพาโนรามิค ( Pancam ) ชุดใหม่ของดาวเคราะห์แดง ซึ่งทำการสำรวจโดยยาน Mars Exploration Rover Opportunity แสดงภูมิประเทศ ที่ได้เหยียบย่ำไปตลอด หน้าหนาว 4 เดือน บนดาวอังคาร เป็น circle scene ทั้งหมด 817 ภาพ
สัมผัสความสวยงามที่มนุษย์ยุคเรา ยังไม่อาจะใกล้ชิดได้ไปก่อน …ก่อนสุดท้ายเราอาจได้ไปวาเคชั่น ลั่นล้า กันที่ดาวอังคารในอนาคต ตามที่องค์กรทางอวกาศต่างทุ่มทุนและผลักดันกันอย่างเมามันส์ … Let’s go to Mars !!
วันพฤหัสบดีที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2555
22:58
Suticha limited edittion
No comments
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
เมื่อพูดถึงกีฬา "กอล์ฟ" หลายคนคงนึกถึงว่าเป็นกีฬาสำหรับคนสูงอายุ และเป็นกีฬาที่ดูน่าเบื่อมิใช่น้อย แถมยังต้องออกไปเดินตากแดดท่ามกลางอากาศที่ร้อนอบอ้าวอีกต่างหาก รวมไปถึงค่าใช้จ่ายของอุปกรณ์ที่มีราคาค่อนข้างสูง ฯลฯ จึงทำให้คนไม่ค่อยหันมาสนใจกีฬาชนิดนี้มากเท่าไหร่นัก แต่ทราบกันหรือไม่...การเล่นกอล์ฟนั้นนอกจากจะช่วยให้รู้สึกเพลิดเพลินแล้ว ยังทำให้คุณมีสุขภาพที่ดีขึ้นอีกด้วยน่ะสิ ถ้าอย่างนั้นเราไปดูพร้อม ๆ กันเลยดีกว่า ว่าประโยชน์ของกีฬากอล์ฟมีอะไรบ้าง
การวอร์มอัพ
ไม่ว่าจะเล่นกีฬาชนิดใดก็ตาม สิ่งแรกที่คุณต้องทำนั่นคือ การวอร์มอัพหรืออบอุ่นร่างกาย เพื่อให้กล้ามเนื้อตื่นตัวและมีความพร้อมก่อนออกกำลัง ไม่เว้นแม้กระทั่งกีฬาที่ดูเหมือนไม่ต้องใช้แรงมากอย่าง กอล์ฟ โดยให้คุณค่อย ๆ ยืดเส้นยืดสายตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นข้อมือ หลัง หรือหน้าท้อง ก่อนออกรอบทุกครั้ง ทั้งนี้ก็เพื่อป้องกันอาการบาดเจ็บที่อาจเกิดขึ้นอีกด้วย
ประโยชน์จากการเดิน
เป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่ากีฬากอล์ฟ เป็นกีฬาที่ต้องอาศัยการเดินค่อนข้างมาก หรือแทบจะตลอดเวลาเลยก็ว่าได้ เพราะผู้เล่นต้องคอยเดินไปตีลูกจนกว่าจะลงหลุม ซึ่งระยะทางในการแข่งขันแต่ละหลุมก็ไม่ใช่น้อย ๆ (ยกเว้นคุณจะหวดโฮลอินวันลงหลุมไปเลยทีเดียว) ดังนั้น คุณจะได้ประโยชน์จากการเดินไปเดินมาในสนามอย่างมากเลยล่ะ
เพิ่มความแข็งแกร่งให้กับร่างกาย
แม้ดูเผิน ๆ แล้วกีฬากอล์ฟอาจไม่ใช่กีฬาที่ใช้แรงหรือพลังงานอะไรมากมายเหมือนกีฬาชนิดอื่น ทว่าการเล่นกอล์ฟก็ยังเป็นการออกกำลังกายที่สามารถเพิ่มความแข็งแรงแกร่งให้กับร่างกายได้ดีวิธีหนึ่ง นอกจากนี้ยังช่วยลดความเสี่ยงจากโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ เช่น โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง มะเร็ง และโรคอื่น ๆ อีกมาก
ช่วยให้กระดูกแข็งแรงขึ้น
สำหรับคนที่ไม่เคยเล่นกอล์ฟหรือไม่เคยจับไม้กอล์ฟมาก่อน คงไม่ทราบว่าไม้กอล์ฟมีน้ำหนักค่อนข้างมากอยู่พอสมควร ซึ่งการที่คุณถือเจ้าก้านเหล็กนี่ออกไปตีวันละเป็นสิบ ๆ ลูก ก็ถือเป็นการเสริมเสร้างความแข็งแรงให้กับกระดูกของคุณอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว
ช่วยลดความอ้วนได้
ไม่ว่าจะเป็นการเดินหรือการหวดลูกกอล์ฟก็ตาม ล้วนแล้วแต่เป็นการเคลื่อนไหวที่ช่วยให้ร่างกายทำงานมากขึ้น ผลที่ได้คือน้ำหนักส่วนเกินในตัวคุณ ก็จะสลายหายไปกับการตีกอล์ฟนี่แหละ รวมทั้งช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในร่างกาย ที่สำคัญช่วยขจัดไขมันบริเวณรอบเอวได้อีกด้วย อันเป็นผลมาจากท่าทางการหวดวงสวิงของคุณยังไงล่ะ
ทำให้จิตใจสงบขึ้น
กอล์ฟ เป็นหนึ่งในกีฬาไม่กี่ชนิดที่ได้เล่นบนผืนหญ้าสีเขียวชอุ่ม ท่ามกลางบรรยากาศอันร่มรื่นรอบ ๆ ตัว จึงช่วยให้จิตใจของคุณรู้สึกสงบขึ้น เพราะได้อยู่ในสภาพแวดล้อมตามธรรมชาติ นอกจากนี้กีฬากอล์ฟยังเป็นกิจกรรมที่ช่วยให้ผู้เล่นมีสมาธิมากขึ้น และรู้จักวางแผนล่วงหน้า เนื่องจากในการตีแต่ละครั้งคุณต้องมีสมาธิจดจ่ออยู่ที่ลูก และยังต้องวางเป้าหมายไว้ก่อนว่าจะตีไปในทิศทางใด เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุด
เป็นอย่างไรกันบ้าง หลังจากที่ได้ทราบประโยชน์ดี ๆ เพื่อสุขภาพจากกีฬาชนิดนี้ไปแล้ว คงทำให้คุณเริ่มมองกีฬากอล์ฟในมุมใหม่กันมากขึ้น เอาล่ะ หากใครรู้สึกคันไม้คันมืออยากจะตีกอล์ฟดูบ้าง ก็ลองเริมต้นจากการไดร์ฟกอล์ฟก่อนก็ได้ แล้วพอไดรฟ์จนคล่องแล้ว รับรองเลยว่าจะต้องติดใจและไปออกรอบกันทุกอาทิตย์อย่างแน่นอน
22:57
Suticha limited edittion
No comments
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
เมื่อพูดถึงการโกนหนวดแล้ว สิ่งที่มีความสำคัญไม่แพ้การเลือกมีดโกนหนวดหรือเทคนิคการโกนก็คือ "ครีมและเจล" ที่ใช้สำหรับทาก่อนลงมือโกนนั่นเอง ซึ่งเราเชื่อว่าหนุ่ม ๆ หลายคนอาจไม่ได้สนใจเกี่ยวกับการเลือกผลิตภัณฑ์กันมากสักเท่าไหร่นัก หยิบจับอันไหนมาได้ก็ใช้ไป ทว่าอันที่จริงมันยังมีอะไรที่มากกว่านั้นอีกเยอะ วันนี้กระปุกดอทคอมเลยจะมาแนะนำวิธีการเลือกครีมและเจลโกนหนวดให้คุณได้ทราบกัน
อันดับแรกเลยที่คุณต้องคำนึงถึง คือ สภาพผิวหน้า ของตัวเอง เนื่องจากแต่ละคนก็มีลักษณะเนื้อผิวที่แตกต่างกัน บางคนผิวแห้ง บางคนผิวมัน หรือบางคนผิวแพ้ง่าย ดังนั้น คุณควรสังเกตผิวของตัวเองก่อน จากนั้นถึงค่อยพิจารณาถึงผลิตภัณฑ์ที่จะใช้
สำหรับคนผิวแพ้ง่ายและผิวแห้ง
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่มีผิวแพ้ง่าย และผิวหน้าแห้งเป็นขุย ๆ ช่วงเวลาโกนหนวดจึงอาจมีร่องรอยบาดแผลจากการโกนหนวดได้ง่ายที่สุด ซึ่งผิวชนิดนี้ต้องได้รับการดูแลและเอาใจใส่มากมากกว่าผิวแบบอื่น ๆ
ในขั้นตอนการโกนหนวด ผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายให้หลีกเลี่ยงการใช้น้ำอุ่นในการล้างหน้า เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ผิวแห้ง และควรเปลี่ยนใบมีดโกนอยู่บ่อย ๆ โดยครีมหรือเจลที่ใช้ทาก่อนการโกนหนวดควรเลือกชนิดที่มีส่วนผสมของมอยเจอร์ไรเซอร์ผสมอยู่ด้วย เพื่อช่วยให้ผิวหน้าของคุณมีความชุ่มชื้น หรือไม่ก็เลือกชนิดที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ ซึ่งผลิตออกมาเพื่อคนผิวแพ้ง่ายโดยเฉพาะ
ทั้งนี้ หากคุณเป็นคนที่มีผิวแห้งถึงแห้งมาก ก็อาจจำเป็นต้องเลี่ยงการใช้อาฟเตอร์เชฟ ซึ่งมีแอลกอฮอล์ผสมอยู่ เพราะอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวของคุณยิ่งแห้งไปกันใหญ่
สำหรับคนผิวมัน
ปัญหาหนักอกหนักใจของหนุ่มผิวมัน คือ ทำให้ใบหน้าอันหล่อเหลาของคุณดูมันเยิ้มอยู่ตลอดเวลา จนอาจต้องพึ่งกระดาษซับมันมากพอ ๆ กับสาว ๆ เลยก็ว่าได้
วิธีแก้ปัญหาที่ง่ายที่สุด คือ หันมาใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยกระชับรูขุมขน และสครับผิวหน้าเป็นประจำ เพื่อขัดเซลล์ผิวที่ตายออก เพียงเท่านี้ก็สามารถช่วยขจัดน้ำมันออกจากผิวของคุณได้แล้ว
อย่างไรก็ดี คนที่มีผิวมันอาจไม่ต้องใส่ใจกับเรื่องครีมโกนหนวดมากเท่าไหร่ แต่ควรหันไปให้ความสำคัญกับอาฟเตอร์เชฟมากกว่า
สำหรับคนผิวผสม
คนที่มีผิวผสม อาจต้องปวดหัวกับการเรื่องผลิตภัณฑ์อยู่สักหน่อย เพราะบนใบหน้าของคุณมีทั้งบริเวณส่วนที่มันและแห้ง เช่น หน้าผากอาจจะมันเยิ้ม แต่แก้มของคุณกลับแห้งเอามาก ๆ เป็นต้น
อย่างไรก็ดี ผู้ผลิตสินค้าจำพวกครีมหรือเจลโกนหนวด รวมทั้งอาฟเตอร์เชฟ ต่างก็เล็งเห็นถึงปัญหาตรงจุดนี้อยู่เหมือนกัน จึงได้ออกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับคนที่มีผิวผสมมาโดยเฉพาะ หรือกรณีที่คุณไม่แน่ใจว่าควรใช้ผลิตภัณฑ์ชนิดใดได้บ้าง แนะนำให้ลองปรึกษากับผู้จำหน่ายสินค้า หรือไม่ก็แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางผิวหนังดูก่อน
คนที่มีปัญหาขนคุด
คนขุด จะมีลักษณะรูขุมขนเป็นตุ่มแข็งนูนขึ้นมา ซึ่งหลายคนอาจเข้าใจผิดว่าเป็นสิว แต่ความจริงแล้วไม่ใช่ ซึ่งโดยปกติแล้วจะไม่ค่อยเกิดขึ้นที่บริเวณผิวหน้ามากนัก แต่สำหรับผู้ที่มีปัญหานี้อยู่จะทราบเป็นอย่างดีว่า เวลาโกนหนวดจะค่อนข้างเจ็บเล็กน้อยบริเวณส่วนที่เกิดขนคุด
วิธีการรักษาที่คนส่วนใหญ่เลือกปฏบัติ คือ ไปพบแพทย์ผิวหนัง เพื่อรักษาขนคุดให้หาย หรือไม่ก็หาครีมที่ใช้รักษาขนคุดโดยเฉพาะมาทาก่อนนอน เพื่อทำให้ขนที่อุดตันในรูขุมขนนั้นอ่อนนุ่มลง และยังช่วยลดการอักเสบได้อีกด้วย
คนที่โกนหนวดบ่อย
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการโกนหนวด เพราะต้องการรักษามาดเนี้ยบเอาไว้เสมอ บางครั้งคุณอาจเปลี่ยนมาใช้สบู่สำหรับโกนหนวด กับแปรงโกนหนวดดูบ้างนะ โดยผสมน้ำกับสบู่เล็กน้อย แล้วค่อยใช้แปรงโกนหนวดค่อย ๆ แปรงเป็นวงรอบ ๆ ซึ่งนอกจากจะเกิดฟองครีมนุ่ม ๆ แล้ว ยังยังช่วยกระตุ้นผิวหนังให้ตื่นตัว ช่วยให้เส้นขนดีดตัวขึ้น ไม่ลีบแบนติดผิวหนัง ทำให้โกนได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
เอาล่ะ เมื่อทราบข้อมูลดี ๆ เกี่ยวกับวิธีการเลือกผลิตภัณฑ์โกนหนวดกันไปเรียบร้อยแล้ว หวังว่าคงมีประโยชน์กับคุณได้บ้างไม่มากก็น้อย คราวหน้าเวลาไปซื้อผลิตภัณฑ์โกนหนวด ก็อย่าลืมเลือกใช้แบบที่เหมาะกับสภาพผิวหน้าของตัวเอง เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ออกมาน่าพึงพอใจมากที่สุดนะครับ
22:56
Suticha limited edittion
No comments
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก damsels.org
เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์เดลิเมลของอังกฤษรายงานว่า เกิดเหตุคุณแม่เพิ่งคลอดชาวอเมริกันเปลือยกายคลั่งทำร้ายเจ้าหน้าที่แพทย์ในสหรัฐฯ หลังเสพยาเพิ่มพลังที่เรียกกันว่า "บาธซอลต์" แต่ไม่มีใครเสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 17 มิถุนายนที่ผ่านมา ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเมืองอัลทูนา รัฐเพนซิลวาเนียของสหรัฐฯ หลังจากที่นางคาร์ลา เมอร์ฟีย์ วัย 31 ปี คลอดทารกน้อยออกมาได้เพียง 2 วัน เธอก็ได้เสพยาบางอย่างจนมีอาการคลุ้มคลั่ง โดยเปลือยกายล่อนจ้อนนอนเกลือกกลิ้งอยู่บนพื้นห้องน้ำ ก่อนที่จะวิ่งอย่างบ้าคลั่งอยู่ในห้องพักฟื้นในโรงพยาบาลและพยายามจะวิ่งออกนอกห้อง ทำให้แพทย์ พยาบาล และตำรวจประจำโรงพยาบาลต้องช่วยกันวิ่งจับตัวเธอกันอย่างชุลมุน เพื่อกันไม่ให้เธอวิ่งออกไปสร้างความตื่นตระหนกภายนอกห้อง ซึ่งทุกอย่างก็เป็นไปอย่างยากลำบาก เพราะนอกจากเธอจะไม่ยอมให้จับตัวแล้ว ยังไล่ทำร้ายทุกคนในบริเวณนั้น
รายงานระบุว่า นางคาร์ลาทั้งไล่ถีบ ชกต่อย และเตะพยาบาล และพยายามกัดเจ้าหน้าที่ตำรวจ แพทย์จึงตัดสินใจฉีดยาต้านโรคจิตชนิดออกฤทธิ์แรงให้กับเธอ ทำให้เธออาละวาดต่ออีกสักพัก และเริ่มสงบลงเมื่อยาออกฤทธิ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวเธอไปพักในห้อง ก่อนจะสืบสวนเรื่องนี้ทันที
จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า ในกระเป๋าของเธอมีผงยาบาธซอลต์ห่อด้วยกระดาษฟอยล์ ซึ่งเธออาจจะเสพมันหลังจากที่คลอดลูก ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้เข้าตรวจค้นภายในบ้านเธอด้วย และพบว่ามีเข็มฉีดยา และผงยาอยู่บนเตียงนอนของเธอ
อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ยังคงอยู่ระหว่างการสอบสวนอย่างละเอียด เพื่อพิจารณาโทษของเธอต่อไป